ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ยังผลทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในภารกิจของ ดีป้า คือการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ให้สามารถดำเนินธุรกิจ ก้าวพ้นวิกฤตโควิด-19 สอดรับกับยุคชีวิตวิถีใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ บริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์ม National Delivery ภายใต้มาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นโครงการมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มรับส่งสินค้า/อาหารสัญชาติไทยในชื่อ eatsHUB แพลตฟอร์มสัญชาติไทยเพื่อคนไทย ที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งร้านที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ร้านอาหารขนาดกลาง หรือแม้แต่ร้านอาหารตามสั่งขนาดเล็ก สามารถเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการร้าน สร้างฐานข้อมูล พร้อมขยายฐานลูกค้า
“ชูจุดแข็งเรื่องของการเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ ( GP) ในอัตรา 8% ถือว่าต่ำกว่าค่าส่วนแบ่งรายได้ของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเฉลี่ย 30% พร้อมรับสิทธิประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ร้านค้า และช่องทางการขายที่หลากหลาย เช่น Mobile Application, Call Center, เว็บไซต์, ระบบ POS และ Cloud Kitchen นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างอาชีพให้ผู้ว่างงานในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี ” ดร.ณัฐพล กล่าว
ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ดีป้า และ ฟู้ด ออเดอรี่ ได้ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์ม eatsHUB ไปแล้ว 6 จังหวัด โดยระยะเริ่มต้นตั้งเป้าให้บริการประชาชนในพื้นที่นำร่องกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตลอดจนหัวเมืองหลัก 17 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ นครสวรรค์ พิษณุโลก นครศรีธรรมราช เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม และพระนครศรีอยุธยา โดยตั้งเป้าหมายมีผู้ประกอบการร้านอาหารเข้าร่วมโครงการฯ ไม่น้อยกว่า 20,000 ราย พร้อมสร้างอาชีพ ไรเดอร์มากกว่า 2,000 ราย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่