ลุงป้อม ลุย! พิษณุโลก-นครสวรรค์ เร่งพัฒนาแหล่งน้ำ ย้ำประชาชนต้องอยู่ดีกินดี
เมื่อวันที่ 20 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ติดตามการพัฒนาทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์
โดยในช่วงเช้าลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่โครงการ
จากนั้นในช่วงบ่ายเดินทางต่อไปยังเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ต.พระนอน อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปภาพรวมผลการดำเนินงานของจังหวัดตามนโยบายรัฐบาล เลขาธิการ สทนช. นำเสนอโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หน่วงน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก “สี่แควโมเดล” ก่อนที่รองนายกรัฐมนตรีจะมอบนโยบายและแนวทางการพัฒนาบึงบอระเพ็ดให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และลงพื้นที่โครงการแก้มลิงบ้านแหลมทอง ต.พระนอน อ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากบึงบอระเพ็ดและปลารสเด็ดปากน้ำโพ และร่วมปล่อยปลา ณ บริเวณหน้าอาคารสำนักงานที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ก่อนพบปะประชาชนผู้ได้รับประโยชน์จากการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงบอระเพ็ด และแก้มลิงบ้านแหลมทอง ตามลำดับ
จากการลงพื้นที่ 2 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานต่างๆ กำกับ ติดตามการจัดสรรน้ำให้เป็นตามแผน พร้อมประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำตามที่ กอนช.ได้มีการคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อเร่งหาแนวทางป้องกัน และแก้ไขทันที พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะภัยแล้งในพื้นที่
โดยเฉพาะลุ่มน้ำยมที่รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซากให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งประตูระบายน้ำท่านางงาม จ.พิษณุโลก เป็น 1 ใน 4 โครงการที่จะบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนล่าง เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้สามารถเก็บกักน้ำในแม่น้ำยมได้เพิ่มขึ้น มีปริมาณน้ำเพียงพอจัดสรรให้กับภาคการเกษตร รวมถึงช่วยเพิ่มระดับน้ำใต้ดินของพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ยังได้สั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งดำเนินการโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่านให้เป็นไปตามแผนงาน และป้องกันไม่ให้ถูกกัดเซาะเพิ่มเติมด้วยโดยต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้ครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำด้วย
สำหรับในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ รองนายกรัฐมนตรีได้ติดตามความก้าวหน้าของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หน่วงน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก “สี่แควโมเดล” และผลการบริหารจัดการบึงบอระเพ็ด ตามที่ได้สั่งการให้หน่วยงานเร่งขับเคลื่อนให้เห็นผลโดยเร็ว โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงบอระเพ็ด ต้องมีการบูรณาการการดำเนินงานของหลายส่วนงาน
อาทิ การทำประมง การเกษตรกรรม การท่องเที่ยว การอนุรักษ์ รวมถึงน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อให้บึง กลับมาเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ และส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมโดยรอบดีขึ้นตามไปด้วย
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช.กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าการพัฒนาทรัพยากรน้ำในพื้นที่ 2 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ว่า รัฐบาลได้มีการเร่งรัดผลักดันการขับเคลื่อนโครงการด้านน้ำตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 61-65) รวมเกือบ 3,000 โครงการ แบ่งเป็น จ.พิษณุโลก 1,881 โครงการ จ.นครสวรรค์ 1,087 โครงการ
อาทิ ประตูระบายน้ำท่านางงามพร้อมอาคารประกอบ โครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมน้ำเสีย เทศบาลนครพิษณุโลก แก้มลิงคลองละหานพร้อมอาคารประกอบ แก้มลิงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนวัดไทรย์ อ.เมืองนครสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ สทนช.บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามแผนการพัฒนาโครงการต่างๆ ภายใต้แผนแม่บทน้ำ 20 ปี เพื่อให้ทรัพยากรน้ำของประเทศเกิดความมั่นคงส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ
ข่าวน่าสนใจอื่น
: เตือนกินปลาไหลสด ทั้งตัว เสี่ยงรับ ‘พยาธิตัวจี๊ด’ ไชตามอวัยวะต่างๆ ได้ อันตรายถึงชีวิต
: ‘พิมรี่พาย’ ขอเพื่อนรักรอ ‘กล่องสุ่มอั่งเปา’ อีกนิด หลังยอดสั่งถล่มทลาย แจกบานปลาย 200 ลบ.
: สถานทูตสหรัฐ แจงชัด สัญชาติไหนก็ ‘ไม่มีลัดคิว’ เข้าประเทศ
: ส่องชีวิตสุดหรูหรา ‘เม พรีมายา’ ไฮแฟชั่นทั้งตัว ซุปเปอร์คาร์เต็มโรงรถ เที่ยวเมืองนอกรัวๆ