จากปัญหาใหญ่ที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะชาวเมียนมา รวมทั้งการนำพาต่างด้าวเข้า-ออกในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รวมทั้งปัญหาการค้ามนุษย์ การพนัน ปัญหาอาชญากรรม และการทุจริตคอร์รัปชั่นในวงกว้างมากขึ้น
วันนี้ทีมข่าว “1/4 Special Report” ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่รัฐ 3 คน หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้เข้ามาให้ข้อมูลกับ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และแกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวกับขบวนการใหญ่ที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทย ในพื้นที่ จ.ตาก-พิษณุโลก-กำแพงเพชร
เจ้าหน้าที่รัฐชุดดังกล่าวเปิดเผยว่า มีพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ตาก ติดแนวชายแดนกับประเทศเมียนมา ประกอบด้วย อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด อ.พบพระ และ อ.อุ้มผาง เป็นแนวยาวติดกับเมียนมา กว่า 100 กม. โดยมีเมืองสำคัญคือ “เมียวดี” ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด ซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจีนเข้าไปสร้างคอมเพล็กซ์-กาสิโน-สถานบริการ-บ้านจัดสรร ไว้มากมายในเมืองเมียวดี
แฉ 3 ธุรกิจมืด!ชายแดน 5 อำเภอ จ.ตาก
สำหรับธุรกิจเถื่อนหรือสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนแถบนี้มี 3 กลุ่มใหญ่ คือ 1.การค้าขายรถยนต์หรู รถยนต์ผิดกฎหมาย (รถจำนำในบ่อน) รถโจรกรรม รวมไปถึงการว่าจ้างคนไปดาวน์รถหรู ๆ ออกมา แล้วลักลอบนำออกไปขายฝั่งเมียนมา ตามช่องทางธรรมชาติ
2. การลักลอบค้า-ขนยาเสพติด มาตามช่องทางธรรมชาติ และซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าชนิดต่าง ๆ โดยมีกองกำลังชนกลุ่มน้อยคอยให้การคุ้มกัน และ 3. การลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ทั้งชาวเมียนมา กะเหรี่ยง โรฮีนจา รวมไปถึงนักลงทุนจีน (ทำงานบ่อน) ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยปัจจุบันค่าจ้างขนแรงงานชาวเมียนมา กะเหรี่ยง และโรฮีนจา จะอยู่ที่หัวละ 12,000 บาท ส่วนค่าหัวนักลงทุนจีนจะอยู่ที่ 50,000-100,000 บาท/คน
โดยนักลงทุนจีนเหล่านี้จะเดินทางวนเวียนไปในลักษณะ 3 เหลี่ยมเชื่อมโยงกัน เพื่อเข้า-ออกบ่อนการพนันต่าง ๆ ตามแนวชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ผ่าน 4 เส้นทาง – 3 ด่านหลักก่อนเข้าภาคกลาง
ส่วนเส้นทางหลักของการเดินทางผ่านเข้า-ออก ระหว่างประเทศไทย-เมียนมา จะมี 4 เส้นทาง คือ 1.พบพระ-วังเจ้า-คลองลาน จ.กำแพงเพชร 2.แม่สอด-ตาก-ถนนสายเอเซีย (เส้นทางหลัก) 3.แม่สอด-ตาก แต่จะตัดเข้าถนนสายรอง ลัดเลาะไปตามหมู่บ้าน เพื่อไปออกที่บ้านลานสาง อ.เมืองตาก 4.แม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง ไปทะลุออก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และ อ.เถิน จ.ลำปาง
ขณะที่ “ด่านตรวจ” สำคัญ ๆ ของเจ้าหน้าที่ จะตั้งอยู่บนถนนสายหลัก (แม่สอด-ตาก-ถนนสายเอเซีย) จำนวน 3 ด่าน คือ 1.ด่านตรวจร่วมห้วยหินฝน เป็นกำลังของตำรวจ สภ.แม่สอด เจ้าหน้าที่ตม.แม่สอด ศุลกากรแม่สอด ตชด. และทหาร ฉก.ร.4 แม่สอด 2.ด่านห้วยยะอุ เป็นของกำลังตำรวจ สภ.พะวอ และ 3.ด่านท่าเลย์ ของกำลังตำรวจ สภ.แม่ท้อ
เจ้าหน้าที่รัฐชุดดังกล่าวเปิดเผยว่า เดิมทีการเข้า-ออกของแรงงานต่างด้าวนั้น ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เดินทางเข้า-ออกกันอย่างถูกต้องตามข้อตกลง “เอ็มโอยู” ระหว่างรัฐบาลไทย-เมียนมา คือ ต้องผ่านการตรวจโรค ผ่านการอบรมทำงาน มีใบรับรองการฝึกงาน แล้วมีการออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)อย่างถูกต้อง
แต่ถึงแม้จะมี “เอ็มโอยู” ระหว่าง 2 ประเทศ ก็ยังมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายลักลอบเข้าเมือง เช่น กะเหรี่ยง-โรฮีนจา ซึ่งคนเหล่านี้อาจไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรเลย ถ้าไปเข้า-ออก ตามช่องทางเอ็มโอยู จะยุ่งยากซับซ้อนเพราะขั้นตอนมาก และเสียเวลานาน จึงลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ มาหลบอยู่ในป่าละเมาะ หรือมาซุก ซ่อนตามบ้าน-เซฟเฮาส์ ที่ขบวนการขนแรงงานเถื่อนจัดเตรียมไว้ เพื่อรอขึ้นรถยนต์ส่วนตัว-รถตู้ พาไปส่งตามพื้นที่ชั้นในของประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะไปส่งไว้ที่ตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี
แต่ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด จึงมีการปิดทุกด่านเข้า-ออกระหว่างประเทศ และปิด “เอ็มโอยู” จึงต้องลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากหลายภาคธุรกิจในประเทศไทยยังต้องการแรงงานต่างด้าว เช่น การก่อสร้าง-โรงงาน-เกี่ยวข้าว-ตัดอ้อย และปศุสัตว์
ขบวนการใหญ่ “ดาบ จ.” เคลียร์ทุกหน้าเสื่อ!
สำหรับ “ขบวนการใหญ่” ลักลอบขนแรงงานเถื่อนในพื้นที่ชายแดน 5 อำเภอของ จ.ตาก ที่ทำกันมาอย่างยาวนาน คือ ขบวนการของ “ดาบ จ.” ตำรวจชั้นประทวนคนดังที่เคยรับราชการอยู่หลายโรงพักชายแดน จ.ตาก แต่ปัจจุบันถูกย้ายมาอยู่ใน จ.พิษณุโลก
แต่ “ดาบ จ.” ผู้มากบารมี ยังสามารถเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ จ.ตาก ได้อย่างสะดวกโยธิน เนื่องจากมีผู้หลักผู้ใหญ่ คอยให้การหนุนหลังเขาอยู่ รวมทั้งมีนายตำรวจระดับ “พ.ต.อ.” อีกไม่ต่ำกว่า 2 นายยังคอยเป็นแบ็กอัพให้ด้วย ดังนั้นจึงถือว่า “ดาบ จ.” มีบรรดานาย ๆ คอยหนุนหลังที่ไม่ธรรมดา แล้วยังมีการอ้างด้วยว่าขบวนการของ “ดาบ จ.” มีสายสัมพันธ์ไปถึงระดับ “นายพล” วงการสีกากี และ ในกองทัพด้วย
ว่ากันว่า “ดาบ จ.” เดินเกมเคลียร์! เพื่อขอ “ประมูล” ขนแรงงานต่างด้าว และชาวจีนเข้าเมืองผิดกฎหมาย กับผู้ใหญ่ทุกระดับ ยาวไปถึงบรรดา “หน้าเสื่อ” ของทุกวงการแต่ละสี ตั้งแต่ระดับบนยันระดับล่าง ด้วยค่าใช้จ่ายส่วยเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เงินเข้ากระเป๋าเดือนละ 20-30 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายส่วยเดือนละ 10 ล้านบาท อาจจะเยอะสำหรับใครบางคน แต่สำหรับ “ดาบ จ.” ทำธุรกิจประเภทนี้มานาน และมองเห็นเม็ดเงินมหาศาลจึงกล้าทำ! และไม่เคย “เข้าเนื้อ” แม้แต่เดือนเดียว เพราะเขายังสามารถทำตัวเลขได้สูงถึงเดือนละ 20-30 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่มีข่าวว่ามีการสกัดจับกุมการขนแรงงานต่างด้าวได้บ่อย ๆ ในพื้นที่ จ.ตาก และกำแพงเพชร แต่ที่สามารถเล็ดลอดเข้าไปถึงพื้นที่ภาคกลาง อีกจำนวนมากแค่ไหน ไม่มีใครทราบ
“เนื่องจากพื้นที่ชายแดน จ.ตาก มันยาวมาก แรงงานต่างด้าวจึงลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ข้ามแม่น้ำ เดินข้ามป่าเขาเข้ามาอย่างไม่ยากนัก แล้วมารอขึ้นรถ ซึ่งมีการเคลียร์เจ้าหน้าที่นอกแถวในพื้นที่ไว้หมดแล้ว ถ้าหากเจ้าหน้าที่คนไหนทำงานอย่างขยันขันแข็ง ไม่เอาด้วยกับขบวนการเขา เดี๋ยวก็ถูกหาเรื่องโยกย้ายออกนอกพื้นที่”
ส่วนถนนสายรอง และถนนตามหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีด่านอยู่แล้ว หรือถ้ามีก็คุยกันรู้เรื่อง รับประกันได้ว่าเจ้าหน้าที่บางคนทุกด่านตรวจต้องมีเบอร์โทรฯ ติดต่อกับดาบ จ. ถ้าเช็กข้อมูลย้อนหลังจะมีทุกด่านที่มีบางคนเป็นขบวนการของดาบ จ. แต่บางคนอาจเปลี่ยนเบอร์โทรฯ บ่อย ๆ เพราะติดต่อกันบ่อย จึงต้องเปลี่ยนเบอร์โทรฯ
โดย “หน้าเสื่อ” ของด่านตรวจบางแห่งจะนั่งอยู่ที่จังหวัดและภาค ยกตัวอย่างรถตู้นั่งได้ 13 คน แต่แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ว่าขนแรงงานต่างด้าวแค่ 8 คน เมื่อถึงด่านตรวจก็เปิดกระจก เปิดประตูรถตู้ ตรวจดูกันพอเป็นพิธีเท่านั้น แรงงานถูกต้องมี 8 คน แต่อีก 5 คนไม่ถูกต้อง ก็ปล่อยหลุดกันเข้ามา เพราะเคลียร์กันไว้แล้วทุกด่าน.