วันที่ 5 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อลงมติร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ในวาระ 3 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ว่า ไม่ว่าผลการลงมติจะออกมาอย่างไรจะมีผลกับประชาชนโดยตรง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำให้ประเทศล้มเหลวทั้งระบบ ผู้ร่างรัฐธรรมนูญในขณะนั้น ต้องการเขียนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคณะเผด็จการที่ยึดอำนาจการปกครองในขณะนั้น เพื่อสืบทอดอำนาจในการยึดอำนาจต่อไป รวมทั้งเขียนกติกาที่ทำให้ประเทศมีปัญหา ผลที่ออกมาไม่ว่าประเทศจะดีหรือร้ายอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขได้ จนถึงวันนี้รัฐธรรมนูญใช้งานมาแล้ว 4 ปี พบว่าสร้างปัญหามากมายในการขับเคลื่อนประเทศ ทำให้ประเทศจมปลักติดกับดักรัฐธรรมนูญ นักลงทุนหนี ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
นายนิยมกล่าวอีกว่า ในช่วงการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศชัดเจนในขณะนั้น ว่าให้รับไปก่อนแล้วมาแก้ทีหลัง แต่มาถึงวันนี้กลืนน้ำลาย ไม่คิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะตัวเองได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากนี้ ยังเอื้อให้ผู้มีอำนาจสามารถสร้าง เครือข่ายยึดอำนาจประชาชนผ่านรัฐธรรมนูญอีกด้วย
“ถ้าอย่างนั้น รัฐบาลกล้าหรือไม่ในการทำประชามติถามประชาชนเลยว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนตัดสินใจ ให้ทุกฝ่ายสามารถรณรงค์ได้อย่างเสรี เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น หากประชาชนลงมติอย่างไร ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นส.ส. รัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมถึงส.ว. ต้องยึดมติของประชาชน จะมาตีรวนไม่ได้ รัฐบาลจะมาอ้างว่าไม่มีงบประมาณในการทำประชามติไม่ได้ เพราะซื้ออาวุธให้กองทัพยังซื้อได้ ดังนั้น การทำประชามติก็ไม่น่าจะมีปัญหา” นายนิยมกล่าว