ไปติดตามภารกิจการช่วยเหลือพระที่ติดอยู่ในถ้ำ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากนักประดาน้ำใช้ประสบการณ์จากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ด้านพระเปิดใจนาทีน้ำท่วมพยายามหนีเอาชีวิตรอดแล้ว แต่หนีไม่ทัน ไปติดตามกับคุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด
วินาทีที่นักประดาน้ำจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก เจอ พระมนัส เขมโก ท่านได้เข้าโผกอดกู้ภัยพร้อมรอยยิ้ม เพื่อแทนคำขอบคุณที่พวกเขาตามหาจนเจอ
หลังจากเข้ามาวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำพระไทรงาม อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา แต่แล้วฝนกลับถล่มลงมาอย่างหนัก ล่วงเลยจนถึงวันที่ 7 เมษายน ทำให้ไม่สามารถออกมาจากถ้ำได้ และต้องหนีลึกเข้าไปภายในถ้ำไกลถึง 600 เมตร เพื่อหนีเอาชีวิตรอด
ก่อนหน้านั้น ประธานที่พักสงฆ์ถ้ำไทรงามแอบหวั่นเกรงว่าหาก พระมนัส ตัดสินใจผิด อาจไม่รอด
ภารกิจช่วยชีวิตในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย ทางขึ้นลงสลับคดเคี้ยวไปมา จุดเสี่ยงสุด คือ ต้องดำน้ำลึกยาวกว่า 15 เมตร จึงเป็นภารกิจสุดหินในการนำตัว พระมนัส ออกมา
ประสบการณ์จากการช่วยเหลือชีวิต 13 หมูป่า จากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน กู้ภัยจึงตัดสินใจยึดแผนดำน้ำออกมาแทนที่จะรอสูบน้ำออกจากถ้ำ เพราะหากฝนถล่มลงมาอีกครั้ง อาจทำให้ภารกิจต้องยืดเยื้อและเสี่ยงชีวิต
ทันทีที่ พระมนัส ออกมา ได้มีเสียงปรบมือแสดงความดีใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือจนภารกิจลุล่วง โดย พระมนัส เปิดใจว่า ตนเองพยายามหนีแล้ว แต่ไม่ทัน
ส่วนอาการ แพทย์ระบุอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องตรวจเพิ่มว่าติดเชื้อหรือไม่
ภารกิจในครั้งนี้มีนักประดาน้ำได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายวิฑูร โรจเดชศักดา และ นายชาญชัย ศุภวีระกุล ชุดประดาน้ำมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันจนภารกิจสำเร็จ
ส่วนมาตรการหลังจากนี้จะมีการติดป้ายเตือนไว้บริเวณทางขึ้นของถ้ำ หากใครจะเข้าไปภายในถ้ำต้องขออนุญาต ลงทะเบียนเข้า-ออก เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก