mujiy{l4kส.ส.พรรคก้าวไกล นำโดย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อในในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ…. แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ มาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อวาระประชุมร่วมรัฐสภา
โดยนายปดิพัทธ์ ระบุถึงวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยกติกาการเลือกตั้ง และญัตติด่วนขอให้รัฐสภาวินิจฉัยตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา สองเรื่องมีความซับซ้อนในกระบวนการและเนื้อหามาก และมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในหลายส่วน โดยเฉพาะข่าวที่ว่าพรรคก้าวไกลขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ และต้องการรักษาผลประโยชน์ของพรรคตัวเองไว้ ด้วยกติกาการเลือกตั้งแบบใบเดียว นี่เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่จริง ดังนั้นเพื่อความชัดเจนในจุดยืนของพรรค และเพื่อให้ทุกฝ่าย ติดตามการประชุมรัฐสภาได้เข้าใจมากขึ้น พรรคก้าวไกลจึงขอแถลงและอธิบายจุดยืนในการเข้าประชุม คือ
1.พรรคก้าวไกลสนับสนุนการแก้ไขกติกาการเลือกตั้งให้ใช้บัตร 2 ใบ และไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมกลายพันธุ์ตามรัฐธรรมนูญ 60 อันเป็นปัญหาทางการเมืองและความไม่สง่างามของรัฐสภาในปัจจุบัน
2.พรรคก้าวไกลเสนอให้ปรับปรุงกติกาการคำนวณคะแนนของรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เหมือนกับแบบที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะถึงจะเป็นการส่งเสริมความมั่นคงของพรรคการเมือง แต่ชัดเจนในข้อเท็จจริงว่าเป็นการคำนวณคะแนนที่เบี่ยงเบน ไม่สะท้อนเสียงที่ถูกต้องของประชาชนที่ลงคะแนน และเอื้อประโยชน์ให้เกิดเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จ สร้างข้อได้เปรียบมากเกินไปให้กับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ลดทอนการแข่งขันที่เป็นธรรม (อ้างอิงจากเอกสารประกอบการพิจารณา ฝ่ายวิชาการรัฐสภา)
3.พรรคก้าวไกลเสนอการคำนวณจำนวนเก้าอี้ ส.ส.ด้วยระบบจัดสรรปันสัดส่วนที่ถูกต้อง เพื่อให้จำนวนเก้าอี้ ส.ส.มีจำนวนตรงกับจำนวนคะแนนของพรรคที่ได้รับในการเลือกตั้ง ระบบนี้จะก่อให้เกิดความเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงของประชาชนได้อย่างถูกต้อง ป้องกันการเกิดเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จ และทำให้การเลือกตั้งเป็นกระบวนการสร้างฉันทามติในบริบทของสังคมไทยที่มีความขัดแย้งทางการเมืองนอกสภา
4.พรรคก้าวไกลยืนหยัดในความถูกต้องชอบธรรมของกระบวนการนิติบัญญัติ เนื่องจากร่างหลักในการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการนั้น กรรมาธิการจำนวนมากและนักวิซาการทางกฎหมาย ได้ชี้ประเด็นที่บกพร่องมากมายในร่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหลักการไว้แคบมากให้แก้ไขเพียง 2 มาตรา เหตุผลประกอบหลักการที่ขัดแย้งในตัวเอง กระบวนของกรรมาธิการเสียงข้างมากที่หยิบเอามาตราที่รัฐสภามีมติไม่เห็นชอบไปแล้วในวาระที่ 1 นำมาเพิ่มในชั้นกรรมาธิการ การเพิ่มเติมและตัดมาตราอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในหลักการ และอื่นๆดังจะได้อภิปรายในญัตติด่วนต่อไป การกระทำเช่นนี้ทำลายหลักความถูกต้องของกระบวนการนิติบัญญัติ สร้างบรรทัดฐานใหม่ที่จะเป็นแหล่งอ้างอิงที่อันตรายมากในอนาคต สุมเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นพรรคก้าวไกลนำโดย นายธีรัจชัย จึงได้เสนอญัตติด่วนให้รัฐสภาวินิจฉัยเสียก่อน และ นายรังสิมัน โรม ได้เสนอการแปรญัตติสงวนความเห็นในมาตรา 83 และ 91 เท่านั้น เพื่อเป็นทางออกให้กับรัฐสภาแห่งนี้ แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอย่างถูกต้อง รอบคอบที่สุด
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลจึงขอชี้แจงเพื่อความชัดเจนในเป้าหมายในการประชุมครั้งนี้ ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิดและช่วยสื่อสารความตั้งใจนี้สู่สาธารณะ ทั้งญัตติด่วนและวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นี่ไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นการยืนยันถึงกระบวนการที่รอบธรรมทางนิติบัญญัติของรัฐสภา และกติกาการเลือกตั้งที่ดีในบริบทประเทศที่มีวิกฤติการณ์ความขัดแย้ง
ถามถึงเหตุผลในการแถลงจุดยืนแบบดังกล่าวนี้ เหตุเพราะพรรคเสียผลประโยชน์หรือไม่ นายปดิพัทธ์ ระบุว่า ตามจริงระบบบัตรเลือกตั้งที่พรรคนั้นได้ประโยชน์ที่สุดคือแบบบัตรใบเดียว ซึ่งต่อให้เป็นแบบบัตรสองใบแบบปี 40 พรรคก้าวไกล ก็อาจจะได้รับคะแนน สนับสนุนอย่างมากเลยก็เป็นไปได้ แต่เจตนารมณ์ของพรรคยืนยันชัดเจนไปตั้งแต่วาระที่หนึ่งแล้วว่านักการเมืองไม่ควรจะมาถกเถียงกันเอง ควรเป็นเรื่องของ ส.ส.ร. ในการร่าง รธน. เพื่อให้นักการเมืองเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
“ในเมื่อมีความพยายามจะแก้ไขระบบบัตรเลือกตั้ง แต่หากไม่ปิดสวิสซ์ สว. ก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะเสียงข้างมากยังคงจัดตั้งได้อยู่ดี พร้อมย้ำว่าพรรคก้าวไกลสู้เพื่อความถูกต้อง” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ถามถึงกรณีที่นายไพบูลย์ ได้ถอน 2 ประเด็นที่สุ่มเสี่ยงขัดต่อระเบียบข้อบังคับที่ประชุมออกไปพรรคก้าวไกลจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายปดิพัทธ์ ระบุว่าจะรับฟังความเห็นจากที่ประชุมใหญ่ก่อน แต่โดยสาระยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังมีปัญหา ส่วนจะยื่นศาล รธน. ตีความหรือไม่ คงขอให้เป็นแนวทางหลังจากนี้