วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพิษณุโลก ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นางสาวนงเยาว์ มูลเครือคำ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางพัชรินทร์ พันธ์แสง พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มคุมความประพฤติ ได้ประชุมให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ติดตามตัว (EM )หรือกำไลข้อเท้า กับ อาสาสมัครคุมประพฤติ เขตอำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยสอดส่องดูแลผู้ถูกคุมความประพฤติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้สังคมให้ชุมชน
นางสาวนงเยาว์ มูลเครือคำผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์การนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้ช่วงนี้จากนโยบาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องการลดความแออัดในเรือนจำ จึงนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ EM หรือกำไลข้อเท้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมผู้กระทำผิด เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก ตัวอุปกณประกอบด้วย ตัวส่งสัญญาณ ลักษณะคล้ายนาฬิกาหรือสายรัดข้อเท้า ตัวอุปกรณ์รับสัญญาณและมีศูนย์ควบคุม EMCC ตั้งอยู่ชั้น 6 กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ที่เฝ้าระวังติดตามสัญญาณ อุปกรณ์ EM ผ่านระบบควบคุมการทำงานอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว ตรวจสอบข้อมูลการแจ้งเตือนและประสานงานกับพนักงานคุมประพฤติในพื้นที่ใช้ติดตามตัวป้องกันการหลบหนี หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการนำอุปกรณ์มาใช้ถือเป็นข้อดีที่จะทำให้ลดความแออัดในเรือนจำ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลนักโทษ และเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก และใช้ในการปล่อยตัวชั่วคราวในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ โดยติดอุปกรณ์ EM ที่ข้อเท้าผู้ต้องหาตลอดเวลา เพื่อใช้กำหนดพื้นที่การเดินทาง ความเคลื่อนไหวและพื้นที่ต้องห้าม รวมทั้งสอดส่องพฤติกรรมของผู้ใช้ หากมีการกระทำผิดเงื่อนไข หากออกนอกพื้นที่ที่กำหนด ทำลายกำไลข้อเท้าเครื่องจะแสดงสัญญาณไปที่ศูนย์ควบคุม ที่มี จนท.ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับกำไลอีเอ็มนำมาใช้กับผู้ถูกคุมประพฤติ 3 กลุ่มคือ กลุ่มผผู้ถูกคุมประพฤติตามคำสั่งศาลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 กลุ่มผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษลดวัดต้องโทษ จากเรือนจำ และกลุ่มผผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ที่ไม่มีหลักทรัพย์ในการประกันตัว คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดอนุญาตให้ติดEM แทนการวางหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอการตรวจพิสูจน์ ตามพ.รบ.ฟื้นฟูสมรภาพผู้ติดยาเสพติด กำไลอีเอ็มที่มีความแข็งแรงและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ศาลใช้ มีเทคโนโลยีการควบคุมที่ทันสมัยด้วยระบบ 4 จี จากการทดสอบระบบมีความมั่นใจขึ้น วันนี้ยังไม่พบปัญหาใดใด ก็แต่คงยังต้องดูกันในระยะยาว
นางสาวนงเยาว์ กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันมีจำนวนผู้กระทำผิดที่ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ EM จำนวน 345 ราย โดยในเขต อ.เมือง มียอดมากที่สุดกว่า 120 คน เป็นผู้ถูกคุมประพฤติ 7 คน นักโทษลดโทษ 51 คน และ กลุ่มผู้ติดยาที่รอตรวจพิสูจน์ 63 คน สำหรับผู้ถูกคุมประพฤติ ของ อ.เมือง 7 ราย เป็นคดีลักทรัพย์ และคดีขับขี่ประมาท ได้มีการควบคุมการออกนอกบ้าน จำกัดเวลาอยู่ภายนอก และจำกัดความเร็วการขับขี่ ทุกคนมีระยะเวลาการสวมกำไลอีเอ็ม 30 วัน ซึ่งผู้ที่ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ EM ใน จ.พิษณุโลก นอกจากเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะดำเนินการดูแลแล้วทาง อาสาสมัครคุมประพฤติ ก็มีส่วนช่วยเหลือดูแลและแจ้งเตือนกรณีมีคำสั่งจากศูนย์ควบคุมกลาง EMCC ให้ตรวจสอบด้วย