สยามรัฐออนไลน์
11 กุมภาพันธ์ 2564 23:15 น.
ข่าวทั่วไทย
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 800 ถุง ไปมอบให้แก่ราษฎร และ ผู้ปฏิบัติงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทั้งมอบเสื้อกันหนาวให้แก่เด็กในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก แล้วมอบให้ราษฎร และผู้ปฏิบัติงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก, โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านป่าคา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร และโครงการอนุรักษ์สภาพป่าแม่ตื่น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การตอนรับ ณ ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
พร้อมกันนี้ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ และคณะ รับฟังการบรรยายสรุปความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของสถานีพัฒนาการเกษตร ที่สูงในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริ, กรมชลประทาน,กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนักเกษตรในพระองค์ ในการคณะที่ปรึกษาได้ให้คำแนะนำเรื้องการปลูกพืชแบบผสมผสาน เพื่อให้เอื้อต่อระบบนิเวศน์ ,รายได้ของเกษตรกร,และส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น บุก ในส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการผลสำเร็จดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 3 โครงการ ฯ ที่ผ่านมา โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว ได้ส่งเสริมการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ไม้ผลตามฤดูกาล และไม้ยืนต้น ทั้งนำผลผลิตมาแปรรูป เพิ่มมูลค่า ตลอดจนยังส่งเสริมงานศิลปาชีพ ได้แก่ ทอผ้า และปักผ้า, โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านป่าคา จัดทำ “ป่าคาโมเดล” ให้ราษฎรนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง โดยเน้นทำการเกษตรในพื้นที่น้อย แต่ได้ผลผลิตมาก, ลดการใช้สารเคมี และปลูกพืชผักผสมผสาน และพืชผักที่มีมูลค่าสูง เช่น อาโวคาโด / โครงการอนุรักษ์สภาพป่าแม่ตื่น ได้ดำเนินงานป้องกันรักษาป่า, งานฟื้นฟู และบำรุงรักษาป่า รวมทั้งงานพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น จัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกบุกไข่, กลุ่มผู้ปลูกกาแฟ
จากนั้น เวลา 14.00 น. องคมนตรี และคณะ เดินทางไปยังโครงการประตูระบายน้ำบ้านป่าซ่านพร้อมอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านพร้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการฯ
สืบเนื่องจากราษฎรตำบลบ้านพร้าวประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง และปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน รวมทั้งปัญหาการแย่งชิงน้ำ จึงได้ถวายฎีกาขอพระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2552 ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2553 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการสนองพระราชดำริ พัฒนาบึงหลวงให้มีลักษณะเป็นแก้มลิง พร้อมทำประตูระบายน้ำบ้านป่าซ่านและอาคารประกอบบริเวณแม่น้ำแควน้อย บ้านป่าซ่านหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านพร้าว ขุดลอกคลองผันน้ำจากแม่น้ำแควน้อยเข้าสู่บึงหลวงเพื่อให้การผันน้ำและการทดน้ำเป็นไปอย่างมีระบบ โดยกรมชลประทาน ได้กำหนดแผนงานออกเป็น 2 ระยะ คือระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2562 สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) พิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอาคารสำนักงาน และก่อสร้างงานดิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงานระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2564 นี้ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาด้านอุทกภัย และการขาดแคลนน้ำของราษฎรตำบลบ้านพร้าวพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ จำนวน 230 ครัวเรือน มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและการประกอบอาชีพเกษตร นอกจากนี้ ยังสามารถชักน้ำเข้าไปเก็บกักในบึงหลวงได้ประมาณ 1.20 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้มีน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอตลอดปีอีกด้วย.