แจ้ง3ข้อหาหนักหนุ่มคลุ้มคลั่งยิงลุงเขยเสียชีวิต แถมยิงรถตำรวจขณะติดตามจับกุม

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 จากเหตุการณ์สุดทะเทือนขวัญที่นายอนุวัฒน์ หอมฉุย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/17 ม. 8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ใช้อาวุธปืนยิงนายนายฉลอง พ่วงพี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/3 ม.4 ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย สืบเนื่องจาก สภ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย รับแจ้งเมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 23 ส.ค. มีเหตุยิงกันที่ เพ็ญจันทร์รีสอร์ท เลขที่ 161 ม.2 ต.บ้านกร่าง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จึงรายงาน พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.กงไกรลาศ ทราบ จากนั้น ร.ต.อ.วิเชียร เพียรทอง รองสว.(สอบสวน) ไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจรถยนต์และสายตรวจรถจักรยานยนต์ พบนางพวงแข ทองมน อายุ 50 ปี แม่บ้านของรีสอร์ทดังกล่าว ยืนรอให้การว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกค้ามาเช่าห้องพัก ได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่มาที่ตน 1 นัดเนื่องจากไม่พอใจที่ตนมาเตือนเรื่องส่งเสียงดัง แต่ไม่โดน หลังจากนั้นก็รีบขับรถปิคอัพมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ผก-4230 พิษณุโลก หลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัด จนพบรถของคนร้าย บริเวณจุดกลับรถ ถ.สิงหวัฒน์ ต.ไกรใน จึงนำรถยนต์สายตรวจขวางแต่คนร้ายไม่ยอมจำนน กลับชักปืนยิงใส่กระสุนถูกกระจกหน้ารถและด้านข้างจนแตกละเอียด ก่อนที่จะเร่งเครื่องหลบหนีเข้าไปในพื้นที่ ม.3 ต.ไกรใน เมื่อเห็นจวนตัวจึงทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าพงป่า กำลังตำรวจกว่า30 นาย ได้ทำการติดตามปิดล้อม และได้ตามตัว นายฉลอง พ่วงพี อายุ 67 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงเขย มาช่วยเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ปรากฏว่า หลังจากนายฉลอง เดินเข้าไปพูดคุยกับคนร้ายได้เพียงครู่เดียว ก็ถูกกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต ที่ลานดินบ้านเลขที่ 5 ม.3 ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เมื่อได้ยินเสียงปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรีบเข้าชาร์ตและควบคุมตัวได้ทันที ทราบชื่อคือ นายอนุวัฒน์ หอมฉุย อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 192/17 ม.8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก และ ปืนลูกซอง 5 นัด อีก 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบยาบ้าอยู่ในกระเป๋ากางเกงอีก 37 เม็ด ไม่ใส่เสื้อใส่กางขาสั้น ซึ่งหลังถูกจับกุม ผู้ต้องหายังให้การวกวน เนื่องจากเสพยาบ้าเข้าไปจนหลอน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้าห้องขังเพื่อรอให้มีสติกลับคืนมา ก่อนแจ้งข้อหาหนักหลายข้อหา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ด้านนายณรงค์ สิงสนิท อายุ 53 ปี บ้านเลขที่5 ม.3 ต.ไกรนอก เจ้าของบ้าน ที่นายฉลอง พ่วงพี ถูกยิงเสียชีวิตที่ลานดิน ข้างบ้านตน ได้เล่าถึงเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญครั้งนี้ให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุตนและภรรยาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงได้ออกไปดูที่บ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ปากทางจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามกันมาอีกจำนวนมาก และยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดนานร่วมชั่วโมงจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ จากนั้นได้เดินกลับมาที่บ้านจึงพบว่าบริเวณลานดินข้างบ้าน พบนายฉลอง ได้ถูกยิงนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ จึงรีบวิ่งไปตามเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ส่วนคนร้ายนั้นตนเห็นว่าได้วิ่งถอดเสื้อถือปืนลูกซองยาวลัดทุ่งนา มาจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิ่งตามมาจับกุมตัวไว้ได้ที่ชายทุ่งหน้าบ้านตน สำหรับคนตายก็เป็นคนที่รู้จักคุ้นเคยกันเนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน

ขณะที่บ้านของนายฉลอง ผู้ตาย ภรรยาและญาติๆได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพนายฉลอง ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้ามีเพื่อมามาช่วยกันกลางเต็นท์และทำครัวอยู่ข้างบ้าน นางถวิล พ่วงพี อายุ 67 ปี ภรรยาผู้ตายเล่าว่าปกติแล้วสามีตนมีอาชีพทำนาแต่ปีนี้ได้เข้ารับการผ่าตัดหลังเลยงดทำนา ซึ่งนายฉลอง สามีตนมีศักดิ์เป็นลุงเขย ของนายอนุวัฒน์ ช่วงเกิดเหตุสามีตนก็อยู่ที่บ้านจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตามก็เลยออกไป ส่วนตนเองไม่ได้ไป จนลูกสาวที่ตามสามีไปได้โทรศัพท์มาบอกสามีถูกยิง สำหรับสามีตนกับหลายชายก็ไปมาหาสู่กันบ่อยซึ่งสามีตนก็เลี้ยงดูอยู่กินกันมานาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3ข้อหาหนักนายอนุวัฒน์ หอมฉุยผู้ต้องหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 3.พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งขณะนี้ทางผู้ต้องหายังไม่สามารถให้การได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ ถูกเศษกระจงที่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงกระจงรถกระเด็นเข้าตา ได้ไปตรวจดวงตาที่รพ.ม.นเรศวร