จากกรณี กลุ่มราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ และมวลชนอิสระ นัดหมายบุกทำเนียบรัฐบาล ‘ไล่นายกฯในวาระบริหารครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันที่ 24 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการชุมนุมภายหลังม็อบจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนมาสมทบม็อบที่ถนนพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 17.30 น. ขุนแผนแสนสะท้าน ตัวแทนผู้ชุมนุมอิสระ ประกาศจุดยืนการชุมนุม ระบุว่า จะมีการยุติชุมนุมในเวลา 20.00 น. คืนนี้ หากกลุ่มใดประสงค์จะค้างคืนต่อ ก็สามารถทำได้ โดยจะทิ้งท้ายด้วยการยืนหยุดขัง 12 นาที เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมทางการเมือง อ่านบทกวี และร่วมร้องเพลง ‘ตายร้อยเกิดล้าน’ ก่อนแยกย้ายนั้น
จนถึงเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมร่วมกันลุกขึ้นยืน พร้อมชู 3 นิ้ว ร้องเพลงสรรเสริญประชาชน ก่อนร้องเพลงอื่นๆ ที่มีเนื้อหาต่อต้านเผด็จการ และการใช้อำนาจกดขี่ประชาชน
เวลา 19.11 น. นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรืออาเล็ก ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร กล่าวว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องเลิกชุมนุมภายใน 20.00 น. หรืออาจเอาป้ายมายืนถือ
เวลา 19.19 น. ผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ซ รวมชูป้ายข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก 112 ปฏิรูปสถาบัน”
จากนั้นเวลา 19.25 น. กลุ่มทะลุแก๊ซ รวมตัวหน้าแนวรั้วเหล็ก ฝั่ง ร.ร.ราชวินิตมัธยม ด้านตำรวจ คฝ. เสริมกำลังที่แนวรั้วเหล็ก พร้อมโล่ และอาวุธ
โดย กลุ่มทะลุแก๊ซเตรียมถุงใส่สี เตรียมขว้างเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจ ซึ่งของเหลวในถุงคือ สีทาภายนอก ผสมรวมกับแป้ง ก่อนที่ผู้ชุมนุมทะลุแก๊ซระดมปาถุงสีข้ามแนวรั้วเหล็ก ไปหาแนวตำรวจ คฝ.
แต่ตกอยู่เพียงหน้าป้ายโรงเรียนราชวินิตมัธยม